ปลูกมะไฟ (Burmese grape)สรรพคุณเป็นยาช่วยลดความดันเลือดและลดอุณหภูมิของร่างกาย รากแก้วัณโรค
ต้นมะไฟ ชาวใต้นิยมกินผลอ่อนสีเขียวทั้งผลเป็นผักกับน้ำพริกและอาหารรสจัดต่าง ๆ รสเปรี้ยวอมฝาด ส่วนผลสุกกินเป็นผลไม้พื้นบ้าน รสเปรี้ยวอมหวาน มีมากในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ปัจจุบันมีสองพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้า มีรสหวานอมเปรี้ยว คือ พันธุ์ไข่เต่า และพันธุ์เหรียญทอง ให้รสหวานกว่าพันธุ์พื้นบ้าน
มะไฟเป็นไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 15 เมตร ใบรูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายใบเรียวแหลม ออกเวียนสลับรอบกิ่ง ช่อดอกออกเป็นกระจุกตามกิ่ง ห้อยลง ดอกชีชมพูอมเหลือง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ผลิบานช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ผลค่อนข้างกลม ก้านช่อผลสีแดงเรื่อ เมื่อสุกสีเหลือง เนื้อหุ้มเมล็ดนุ่ม เมล็ดสีชมพู
มะไฟชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดตลอดวัน ชอบอากาศเย็น ความชื้นในอากาศสูง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด นิยมปลูกเป็นไม้ผลในสวนหลังบ้าน ให้ร่มเงาได้ดี กระจายพันธุ์แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยพบตามป่าดิบชื้นและป่าเบญจพรรณทั่วทุกภาค ปลูกไม่ยาก
มีสรรพคุณเป็นยาช่วยลดความดันเลือดและลดอุณหภูมิของร่างกาย รากแก้วัณโรค แก้ไข้ เริม และแผลพุพองอื่น ๆ ใบแก้กลากเกลื้อน ขับพยาธิ ดอกและผลช่วยถอนพิษไข้และขับระดู
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น